iot_008 แนวทางแก้ปํญหาที่มักพบใน IoT

ขั้นตอนในการทำงาน Internet of Things (IoT)

ความยุ่งยากและซับซ้อนในการนำ IoT มาใช้งาน จากการนำงานด้าน IoT ไปใช้ จะพบว่ายังมีปัญหาอุปสรรคและความซับซ้อนในการนำมาใช้อีกมาก เนื่องจากการทำงานด้านนี้ต้องใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะทาง และยังมีความยุ่งยากกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอีกมาก 

1. ปัญหาที่มีการใช้เทคโนโลยี IoT มีหลายเรื่อง เช่น

ด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่าย

ด้านการจัดการข้อมูลใหญ่โต (Big Data)

ความเชื่อมต่อที่เสถียรของอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับระบบ IoT

ความปลอดภัย อุปกรณ์ IoT มักถูกโจมตีทางไซเบอร์

ความเป็นส่วนตัว ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเก็บและนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

การทำงานร่วมกัน อุปกรณ์ IoT จากผู้ผลิตต่างกันอาจไม่ทำงานร่วมกัน

ความยุ่งยาก การติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์ IoT อาจยุ่งยาก

ต้นทุนอุปกรณ์ IoT อาจมีราคาแพง

2. แนวทางการแก้ไข

- การป้องกันความปลอดภัย พัฒนาเทคโนโลยีการเข้ารหัสและระบบการตรวจจับการบุกรุก (Intrusion Detection Systems) เพื่อปกป้องข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย IoT

- การจัดการข้อมูล: ใช้เทคโนโลยี Big Data Analytics เพื่อวิเคราะห์และจัดการข้อมูลใหญ่โตให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน

- การเพิ่มความเสถียร: ใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่าย (Network Connectivity) ที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้โปรโตคอล IoT เช่น MQTT, CoAP และการใช้เทคโนโลยี Mesh Networking

- ความปลอดภัย พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย ปรับปรุงเฟิร์มแวร์ และใช้รหัสผ่านที่คาดเดายาก

- ความเป็นส่วนตัว กำหนดกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

- การทำงานร่วมกัน พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์

- ความยุ่งยาก พัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย

- ต้นทุน พัฒนาอุปกรณ์ราคาประหยัด

3. ตัวอย่างเครื่องมือ Hardware ที่มี

- Raspberry Pi เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่มีความสามารถในการทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์ IoT Gateway สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ต่างๆ เข้ากับเครือข่าย

- Arduino เป็นเพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ ที่ใช้ในการพัฒนาอุปกรณ์ IoT ซึ่งมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งตามความต้องการของโครงการได้

- ไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino, Raspberry Pi

- โมดูล Wi-Fi ESP8266, ESP32

- เซ็นเซอร์ DHT11, BME280

- บอร์ดพัฒนา SparkFun Thing Plus, Adafruit Feather Huzzah

4. ตัวอย่างเครื่องมือ Software ที่มี

- AWS IoT: เป็นบริการ IoT จาก Amazon Web Services ที่มีความสามารถในการจัดการอุปกรณ์ IoT, ข้อมูล, และการเชื่อมต่ออย่างปลอดภัย

- Google Cloud IoT Core: เป็นบริการ IoT จาก Google Cloud Platform ที่มีความสามารถในการจัดการและควบคุมอุปกรณ์ IoT ให้ง่ายขึ้นผ่านพื้นฐานของคลาวด์

- แพลตฟอร์ม IoT AWS IoT, Azure IoT, Google Cloud IoT

- เฟรมเวิร์ก Node-RED, Home Assistant

- ภาษาโปรแกรม Python, C/C++, JavaScript

ตัวอย่างการใช้งาน

การใช้ Raspberry Pi เป็น IoT Gateway ที่เชื่อมต่อกับ Arduino ที่มีเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นในโรงเรือน เพื่อควบคุมระบบการให้น้ำให้พืชอัตโนมัติโดยอัตโนมัติผ่าน Cloud IoT Platform ของ Google Cloud เป็นการแก้ไขปัญหาด้านการจัดการข้อมูลใหญ่โตและความสามารถในการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ IoT อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพสูง.ระบบรักษาความปลอดภัยบ้าน

ฮาร์ดแวร์ เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, กล้องวงจรปิด, ไมโครคอนโทรลเลอร์

ซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม IoT, เฟรมเวิร์ก IoT, ภาษาโปรแกรม

ระบบจะแจ้งเตือนเจ้าของบ้าน เมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวหรือบุกรุก

สรุป

เทคโนโลยี IoT มีศักยภาพมากมาย แต่ต้องมีการแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ด้วยเครื่องมือฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและใช้งาน IoT ต้องมีองค์ประกอบสำคัญเพื่อสร้างแอปพลิเคชัน ได้แก่ ส่วนต่อประสานกับเครื่องจักรกับมนุษย์ (HMI), เซ็นเซอร์อัจฉริยะ, การเชื่อมต่อไร้สาย, ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว, การเรียนรู้ของเครื่องที่ขอบ, ระบบคลาวด์, การสั่งดำเนินการและเปิดใช้พลังงาน ซึ่งทำด้วยแอปพลิเคชัน IoT ให้ใช้เทคโนโลยีในหลายด้าน ระยะเวลา และความเชี่ยวชาญที่จำเป็น ในการนำไปใช้และบูรณาการด้านเหล่านี้เข้าด้วยกัน 

การเอาชนะความยากลำบากและความซับซ้อนเหล่านี้ต้องใช้วิธีการแบบสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น ฮาร์ดแวร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ เครือข่าย การจัดการข้อมูล ความปลอดภัย และการจัดการโครงการ การทำงานร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แตกต่างกัน เป้าหมายโครงการที่ชัดเจน และกลยุทธ์การใช้งานที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการนำทางความท้าทายของการนำงาน IoT ไปใช้อย่างประสบความสำเร็จ

---------------------------------